วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เริ่มแล้วรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. กองเชียร์มากันคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันนี้ (1 กันยายน) ซึ่งเป็นวันแรกว่า คึกคักโดยกองเชียร์ของผู้สมัครแต่ละคนเดินทางมากันตั้งแต่เช้า ทั้ง นางลีนา จังจรรยา, ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครอิสระ ชูสโลแกน ดร.แดนทำได้ ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ ขณะที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ ชูนโยบายกรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ ด้านนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.ทถ.กทม.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ทำให้กทม.ต้องทำงานหนักกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน แต่ก็ได้ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิ์ 70 เปอร์เซนต์ ส่วนขั้นตอนการรับสมัครวันนี้ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 16.30 น. โดยผู้สมัครจะต้องลงทะเบียนเวลา เพื่อแสดงความประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ณ โต๊ะลงทะเบียนบริเวณหน้าห้องรัตนโกสินทร์ ซึ่งหากผู้สมัครมาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. จะถือว่ามาถึงสถานที่พร้อมกันทั้งหมด และเมื่อ ผอ.กต.ทถ.กทม. กล่าวเปิดการรับสมัครแล้ว จะเชิญผู้ประสงค์ลงสมัครที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนเวลา 08.30 น. ทำความตกลงกันว่าผู้ใดจะสมัครก่อนหลัง หากตกลงกันไม่ได้จะใช้วิธีการจับสลาก 2 ครั้ง โดยการจับสลากครั้งที่ 1 ผอ.กต.ทถ.กทม. เป็นผู้จับสลาก เพื่อให้ทราบว่าผู้ใดจะเป็นผู้มีสิทธิจับสลากก่อนหลัง ส่วนการจับสลากครั้งที่ 2 ผู้สมัครจะจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเพื่อใช้ในการหาเสียง ทั้งนี้ภายหลังทราบหมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้ว ผู้สมัครจะยื่นใบสมัครและดำเนินการรับสมัครตามขั้นตอนต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ช่วงเช้าวันนี้ (1 กันยายน )มีผู้มาสมัครจำนวน 8 คน และจับสลากได้หมายเลข ดังนี้
หมายเลข 1 นายกิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์
หมายเลข 2 นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
หมายเลข 3 ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ
หมายเลข 4 นายวราวุธ ฐานังกรณ์
หมายเลข 5 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน
หมายเลข 6 นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล
หมายเลข 7 นางลีน่า จังจรรจา
หมายเลข 8 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์



นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 51031601155 Sec.1

สื่อนอกวิเคราะห์ไทยวุ่นยืดเยื้อ


เมื่อวันที่ 31 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รวมทั้งเว็บไซต์สำนักข่าวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซีเอ็นเอ็น บีบีซี เอบีซี เดอะ สตาร์ อัลจาซีร่า เดอะ การ์เดียน วีโอเอ นิวส์ นสพ.เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส และสำนักข่าวอินเตอร์ เพรส เซอร์วิส (ไอพีเอส) ต่างรายงานเกาะติดกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปักหลักชุมนุมประท้วงขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ก้าวสู่วันที่ 6 โดย ต่างรายงานสถานการณ์ที่เกิดในแต่ละวัน การยืนยันไม่ ยอมลาออกของนายสมัคร รวมทั้งการที่สภาเปิดประชุมฉุกเฉินหาแนวทางแก้ไขวิกฤติ ส่วนรอยเตอร์รายงานระบุ ถึงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตต่อจากนี้ไปคือ 1. การชิงประกาศเลือกตั้ง แต่ก็เป็นที่คาดหมายว่านักการเมืองกลุ่มเดิมจะชนะเลือกตั้งอีก และกลุ่มพันธมิตรฯก็คงไม่เลิก ประท้วง 2. ประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่ข้อนี้ไม่น่าจะบังเกิด ผลดีนัก อีกทั้งฝ่ายกองทัพก็ไม่น่าจะเอาด้วย 3. ทหารทำปฏิวัติ กรณีนี้ผู้นำเหล่าทัพต่างยืนยันมาตลอดว่าจะไม่มีปฏิวัติ แต่หากการประท้วงบานปลายจนถึงนองเลือด ทหาร ก็อาจออกมาปฏิวัติ 4. นายสมัครหมดความอดทน สั่งตำรวจ ใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง แม้นายสมัครยังยืนยัน ไม่ใช้ความรุนแรง แต่หลายฝ่ายก็จับตาดูว่านายกฯไทยจะอดทนได้กี่มากน้อย

รอยเตอร์ไม่ชี้ชัด
5. สมัคร และ ครม.ยอมลาออก : ตรงนี้ฝ่ายค้าน จะต้องรีบหาพันธมิตรฯตั้งรัฐบาลผสม หากทำไม่สำเร็จก็ จะมีการเลือกตั้งใหม่ 6. กลุ่มพันธมิตรฯหมดทุน-เลิก ประท้วง แม้ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่ามีนายทุนกลุ่มไหน ให้การหนุนหลังบ้าง แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรฯ มีทุนหนา และมีเครือข่ายที่ดี แต่ในท่าทีปัจจุบัน กลุ่ม พันธมิตรฯคงไม่ยุติประท้วงเป็นแน่ 7. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าไกล่เกลี่ยวิกฤติ เหมือนกับหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ไม่ได้ชี้ชัดว่าจะ มีข้อไหนสามารถเยียวยาการแตกแยกในกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้านอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างชะงัด

ฝรั่งชินหากไทยมีปฏิวัติอีก
ด้านเดอะการ์เดียน รายงานเหตุประท้วงในไทย และการเข้าปิดกั้นสนามบินในเมืองท่องเที่ยวภาคใต้ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษหลายพันคนติดค้าง ขณะที่ บุตรหลานที่มาด้วยก็กลับไปไม่ทันโรงเรียนเปิด ส่วนเดอะ สตาร์ ออนไลน์ ระบุเหตุประท้วงปัจจุบัน เป็นเพราะประชาธิปไตยของไทยอยู่ในขั้นพัฒนาเหมือนกับหลายๆชาติ ที่มีการพัฒนาประชาธิปไตยในรูปแบบของตัวเอง ขณะที่ เอเอฟพีรายงานแม้ออสเตรเลีย อังกฤษ และสหรัฐฯ จะเตือน พลเมืองของตนเกี่ยวกับการเดินทางมาไทย ส่วนเกาหลีใต้ เรียกร้องพลเมืองให้เลื่อนการเดินทางมาไทย แต่ผู้เชี่ยวชาญ บางคนยังเห็นในด้านบวก นายโอลิเวอร์ มาร์ติน ผู้อำนวย การสมาคมการท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า การท่องเที่ยว ในไทยยังมีแนวโน้มที่ดี แม้สถานการณ์จะบานปลายจนเกิดปฏิวัติ คาดว่าหลายคนจะไม่เปลี่ยนแผนเดินทาง เพราะ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในไทย หากดูตามประวัติศาสตร์แล้วเกิดมีปฏิวัติก็บ่อยครั้ง โดยทั่วไปไม่ถือว่ารุนแรงนัก และดู เหมือนเป็นเรื่องภายใน


วิเคราะห์ข่าว
สถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันเกิดความวุ่นวายอย่างมาก จนประชาชนธรรมดาๆ ไม่สามารถเข้าใจถึงจุดประสงค์ในการกระทำของบุคคลที่เรียกตัวเองว่ารัฐบาล และ กลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มรักษาประชาธิปไตย การออกมารวมตัวกันทำการประท้วงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้อย่างถูกต้อง แต่ถ้าหากการกระทำกล่าวทำให้เกิดความเดือดร้อนไปทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว การเมือง การต่างประเทศ แล้วจะดื้อดึงทำไปเพื่ออะไร ทำไมไม่หาวิธีประนีประนอมที่จะสร้างความสามัคคีให้คงอยู่ในหมู่ชาวไทย ความร้าวฉานที่เกิดขึ้นนั้นอาจมากจนเกินจะแก้ไขได้ แต่ในเมื่อเราก็ยังเป็นคนไทย ที่อยู่ในประเทศไทย เราก็ควรทำให้ประเทศไทยสงบสุขไม่ใช่หรือ ประเทศไทยเป็นบ้านของเรา เราก็อยากอยู่ในบ้านของเราอย่างมีความสุข คนไทยทุกคนก็คือพี่น้องของเรา ...รักกันไว้นะดีแล้ว...

โดย นางสาวพอตา ดำรงค์ศักดิ์ ID 5131202032

นปช. ชี้ 9 แกนนำ พธม.กลัวถูกจับ



เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่บริเวณหน้ารัฐสภาและที่ท้องสนามหลวงในช่วงเย็น ซึ่งกลุ่ม นปช.ยังปักหลักชุมนุมปราศรัยให้กำลังใจรัฐบาลและโจมตี 9 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่องและดุเดือด โดยมีการให้เวลา 7 วัน กลุ่มพันธมิตรฯต้องยุติการชุมนุมยึดสถานที่ราชการ และสนามบินทั่วประเทศ มิฉะนั้นจะต้องไปหาแผ่นดินใหม่อยู่ ขณะที่ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ก็กล่าวท้าทายให้ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ออกมาดีเบตกันผ่านสถานีโทรทัศน์ แต่เชื่อว่าทั้งหมดจะไม่กล้าออกมาเพราะกลัวถูกจับตามหมายจับ พร้อมกันนี้ก็ได้เรียกร้องกลุ่มพลังเงียบทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาแสดงพลังถือป้ายประณามกลุ่ม พันธมิตรฯ และสนับสนุนรัฐบาลอย่างน้อยวันละ 1 ชม. เป็นประจำทุกวัน
พลังอีสานจี้ ตร.จัดการคนทำผิด
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในหลายจังหวัดภาคอีสาน อาทิ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ฯลฯ ก็มีประชาชนจากอำเภอต่างๆจำนวนมาก นำโดยผู้นำชุมชนและนักการเมืองพรรครัฐบาล ออกมาชุมนุมถือป้ายให้การสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป และเรียกร้องให้รัฐบาล ใช้กฎหมายดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่ละเมิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมถึงให้กำลังใจตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อความสงบของประเทศ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรฯยุติการชุมนุมเช่นกัน หากไม่หยุดก็จะเดินทางเข้ากรุงมาขับไล่
น.ส. พิมลพรรณ น้อยสะปุ๋ง 5131202034

กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับประเทศไทย

กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้มีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวว่าสนามบินภูเก็ต กระบี่ และหาดใหญ่ถูกปิด หากประสงค์จะเดินทางไปยังสนามบินดังกล่าวให้ติดต่อกับบริษัททัวร์ท้องถิ่นก่อนเดินทางนอกจากนี้ ยังเตือนให้นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีการประท้วง เช่น ถนนราชดำเนิน ทำเนียบรัฐบาล สะพานมัฆวาน รวมถึงบริเวณที่มีกลุ่มคนชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก เพราะอาจมีอันตรายจากการระเบิดพร้อมทั้งระบุว่าแม้สถานการณ์ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหารจะเริ่มคลี่คลาย แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเที่ยวบริเวณดังกล่าวก่อนหน้านี้ได้มีการเตือน ไม่ควรเดินทางไปสี่จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา และเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซียด้วย



นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 5131601155 Sec.1

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยVSกลุ่มประชาชนรักประชาธิปไตย


พวกคุณมีความคิดอย่าไรบ้าง ??

กับ 2 กลุ่มนี้ ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อย
ff
นางสาวภูริดา จุลกะรตัน์ 5131601155 Sec.1

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สาทิตย์จวกหมักแข็งกร้าว ห่วงประชุมรัฐสภาล้มเหลว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังการประชุมวิปค้าน ว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นปัญหาของบ้านเมืองว่าใครขัดแย้งกับใคร เพราะขณะนี้ปัญหาไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งของพรรคพลังประชาชน (พปช.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แต่เป็นเพราะการเมืองภาคประชาชนมีข้อเสนอและขัดแย้งกับรัฐบาล ซึ่งเราต้องทำให้เห็นว่าข้อเรียกร้องของการเมืองภาคประชาชนคืออะไร รวมทั้งต้องเสนอทางออกให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากการอภิปรายอยู่ในกรอบเหล่านี้ก็ไม่ต้องไปชี้หน้าถกเถียงว่ากันในสภาฯว่าใครผิดใครถูก ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในสภาอีก ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะมาประชุมร่วมกันและจะทำให้คนเสื่อมศรัทธารัฐสภาด้วย และตนก็เห็นด้วยที่จะให้ถ่ายทอดสดการอภิปรายทั่วไป ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที)
เมื่อถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จัดรายการ สนทนาประสาสมัคร ด้วยท่าทีแข็งกร้าวต่อสถานการณ์เมืองนั้น จะทำให้บรรยากาศสภาฯดีขึ้นหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า การที่นายกฯ ส่งสัญญาณเช่นนั้น ตนกลัวว่าการประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะล้มเหลว เพราะท่าทีนายกฯแข็งกร้าวมาก ทั้งที่ควรเป็นท่าทีรับฟัง เพราะเจตนารมณ์ของมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญหมายความว่า รัฐบาลมีปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินและควรฟังความเห็นส.ส.และส.ว.รัฐบาลก็ต้องฟังว่า ความเห็นจะเป็นอย่างไร แล้วจึงกำหนดท่าทีของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเวทีของรัฐสภาล้มเหลว พรรคฝ่ายค้านมีทางออกไว้อย่างไรหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องมีข้อเสนอ และวันนี้ผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องมาอภิปรายท่าทีและข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลด้วย



น.ส.จุติรัตน์ ผดุงโรจน์วิทย์ sec 1 ID 5131601024

พันธมิตร เอาคืน ปิดสนามม้านางเลิ้ง ล้อมเอาคืนตำรวจ

พันธมิตรแห่ปิดสนามม้านางเลิ้ง ขวางตร.พักเหนื่อย หลังยึดทำเนียบฯ คืนสำเร็จ "รสนา"ร้องผบ.ตร. ฟ้องตำรวจใช้ปืนจี้หัวผู้ชุมนุมพันธมิตร "ปฐมพงษ์"พาส.ว.บุกบช.น.ขอพบ"อัศวิน"อย่าใช้ความรุนแรงสลายม็อบ "สนธิ-สมเกียรติ" ปลุกพันธมิตรฯทั่วประเทศ ฮือ! สมทบทำเนียบฯ สั่งเก็บ "อุจจาระ" มาสู้กับ ตร. ศาลแพ่งรับอุทธรณ์พันธมิตร แต่คำขอทุเลายังไม่มีผลกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงปักหลักชุมนุมภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่ 3 หลังจากบุกยึดทำเนียบรัฐบาลสำเร็จตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม แม้ว่าศาลแพ่งจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบรัฐบาล และศาลอาญาออกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรกับพวก เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม แกนนำ ยืนยันที่จะไม่ไปมอบตัว แต่พร้อมให้ตำรวจเข้ามาจับกุมตามหมายจับ

"รสนา"ร้องผบ.ตร. ตำรวจใช้ปืนจี้หัวผู้ชุมนุมพันธมิตร

เมื่อเวลา 16.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. พร้อมด้วย พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรสุข ที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนจี้หัวผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าร้องเรียนต่อพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยขอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการอย่างเด็ดขาดไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดเหตุพลาดพลั้งและขยายความรุนแรงหมือนเหตุพฤษภาทมิฬและเหตุการณ์เดือนตุลาคม นอกจากนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการสลายการชุมนุม เนื่องจากขณะนี้เป็นการชุมนุมของชาวบ้านเป็นเรื่องปลายเหตุต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยวิธีทางการเมืองเปิดเวทีเจรจา

น.ส.รสนา กล่าวว่า ยอมรับว่าการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล หากไม่ถูกต้อง ก็ต้องใช้วิธีละมุมละม่อม ส่วนการเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ ออกมารับผิดชอบก็สามารถเรียกร้องได้ แต่แกนนำพันธมิตรฯ อาจอ้างเพื่อขออารยะขัดขืน แต่มีเรื่องโทษทางอาญาก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

พันธมิตรแห่ปิดสนามม้านางเลิ้ง ขวางตร.พักเหนื่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางจากทำเนียบรัฐบาลถึงสนามม้านางเลิ้งแล้ว เพื่อหวังปิดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเข้าพักผ่อน รวมทั้งสกัดกั้นการลำเอียงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย




น.ส.จุติรัตน์ ผดุงโรจน์วิทย์ Sec 1 ID 5131601024

ตร.ลุย พธม.เจ็บระนาว

ศาลแพ่งสั่งระงับบังคับคดีชั่วคราว"สมัคร"พูดเป็นนัย



ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ระงับการบังคับคดีไว้ชั่วคราว หลังตำรวจปะทะม็อบเจ็บระนาว ขณะนำเจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าปิดหมายที่เวทีพันธมิตร เชิงสะพานมัฆวานฯ ด้านตำรวจเข้ารื้อเต็นท์ที่พักในถนนราชดำเนิน พบระเบิดเพลิง ไม้ตอกตะปู กระสุนปืน มีดและดาบ รวมทั้งน้ำมันและใบกระท่อม ตกบ่ายพันธมิตร รวมตัวนับพันลุยยึดพื้นที่คืนได้สำเร็จ โดยตำรวจไม่กล้าขัดขวาง ส่วนตอนเย็น “การุณ ใสงาม” มาเองนำพันธมิตร บุก บช.น. ขึ้นเรียกร้องให้ส่ง พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว ออกมา เนื่องจากไปบุกพันธมิตร แล้วเกิดเสียงระเบิดขึ้น กลุ่มพันธมิตรถูกแก๊สน้ำตาไปหลายคน อ้างตำรวจใช้ แต่ “อัศวิน” พร้อมสื่อมวลชนที่อยู่ด้านใน บช.น. ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้เป็นผู้ใช้แก๊สน้ำตายิงใส่ฝูงชน ด้าน “สมัคร” เผยยอมอดกลั้นอดทนเพื่อเตรียมจัดงานใหญ่ พูดเป็นนัย “พรุ่งนี้มีเปลี่ยนแปลง” หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นำกำลังบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล และศาลได้อนุมัติหมายจับ 9 แกนนำ ในข้อหากบฏไปแล้ว ต่อมาในตอนดึก ศาลแพ่งก็มีคำสั่งให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบโดยทันที แต่กลุ่มพันธมิตรฯก็ยังไม่ยอมออกตามคำสั่ง ล่าสุดศาลได้สั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้แล้วนั้น


จาก...http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=175206&NewsType=1&Template=1

น.ส. พอตา ดำรงค์ศักดิ์ ID: 5131202032

พันธมิตรฯจ.ภาคใต้ ยังปิดล้อมสนามบินไม่มีกำหนด

พันธมิตรฯจ.ภาคใต้ ยังปิดล้อมสนามบินไม่มีกำหนด



ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการชุมนุมปิดประตูเข้า-ออกสนามบินภูเก็ต ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ส่งผลให้ท่าอากาศยานภูเก็ตต้องประกาศปิดสนามบินชั่วคราวต่อไปจนถึงเวลา 18.00 น.วันนี้ (30 ส.ค.)
ล่าสุด นาวาอากาศโทวิชา เนินลพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้ประสานให้ศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต แจ้งไปยังสายการบินต่างๆ แล้วว่า ยังจำเป็นต้องปิดสนามบินภูเก็ตต่อไป และจะมีการหารือ ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงปักหลักปิดทางเข้า-ออกสนามบินทุก 6 ชั่วโมง เพื่อประเมินความปลอดภัยของผู้โดยสาร และการขึ้น-ลงของเครื่องบินก่อนตัดสินใจเปิดให้บริการตามปกติ
นาวาอากาศโทวิชา กล่าวต่อว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นตลอดเช้าวันนี้ ต้องยกเลิกเที่ยวบิน ของ 11 สายการบิน แล้วรวม 118 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 93 เที่ยวบิน และเที่ยวบินต่างประเทศ 25 เที่ยวบิน โดยการบินไทยได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะมีมากถึง 21 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารที่มีตั๋วอยู่แล้วแต่ไม่สามารถเดินทางได้กว่า 15,000 คน



ส่วนที่ จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปักหลักปิดถนนทางเข้า-ออก สนามบินต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ได้เคลื่อนขบวนเข้ายึดพื้นที่ลานจอดเครื่องบินภายในสนามบินแล้ว และประกาศจะไม่ถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าพันธมิตรฯ ส่วนกลางจะได้รับชัยชนะ ส่งผลกระทบให้ 6 เที่ยวบินของบริษัทการบินไทย และไทยแอร์เอเชีย ตลอดวันนี้ ไม่สามารถขึ้น-ลงได้ เจ้าหน้าที่จึงยังต้องจัดรถบัสปรับอากาศ ชั้น 1 ให้บริการแก่ผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพิ่มอีก 3 คัน
ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ท่าอากาศยานกระบี่ได้ประกาศ ระงับเที่ยวบินทุกเที่ยวโดยไม่มีกำหนด จนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยในวันนี้มีเที่ยวบินที่จะมาลงที่สนามบินกระบี่ทั้งหมด 6 เที่ยวบิน ก็ได้ยกเลิกการเดินทางไปแล้วเช่นกัน


จาก http://www.thairath.co.th/online.phpsection=newsthairathonline&content=102463

โดย นางสาวพอตา ดำรงค์ศักดิ์ ID 5131202032

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

้้้“145 นักวิชาการ” จี้รัฐรับผิดชอบความรุนแรงทางการเมือง


วันนี้(28 ก.ค.) ที่สมาคมนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายจรัส สุวรรณมาลา คณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาฯ พร้อมด้วยนายวรศักดิ์ มหัทโนบล นายไชยันต์ ไชยพร นายสุรัตน์ โหรากุลชัย อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ นพ.ปูม มาลากุล ณ อยุธยา อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหิดล ร่วมกันแถลงประณามการใช้ความรุนแรงและเรียกร้องให้รัฐแก้ไขปัญหาตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเคร่งครัด
นายวรศักดิ์ กล่าวว่า ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา นักวิชาการขอประกาศจุดยืนและขอเรียกร้อง ดังนี้ 1.ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบรวมทั้งการทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.ค.และก่อนหน้านั้นว่าเป็นพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนอำมหิตเยี่ยงมนุษย์ผู้กระหายเลือด ไม่ต่างจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2.ขอประณามผู้นำทางการเมือง ผู้นำในองค์กรของรัฐ ผู้นำในการชุมนุม ตลอดจนกลุ่มบุคคล บุคล องค์กรสื่อทุกรูปแบบและองค์กรวิชาชีพอื่นทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความในการก่อความรุนแรง 3.ขอประณามเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ที่เพิกเฉยละเว้นมิได้ปฏิบัติหน้าที่หรือเลือกปฏิบัติ และ 4.ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วนราชการ องค์กรอิสระ ใช้อำนาจรัฐจัดการกับผู้มีส่วนในความรุนแรงรวมทั้งทั้งเจ้าหน้าที่ที่ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยต้องจัดการด้วยความเด็ดขาดและตรงไปตรงมา
นายจรัส กล่าวว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นตัวการที่แท้จริงไม่ใช่แค่กลุ่มบุคคลที่ถืออาวุธเท่านั้น แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเลยไม่ปฏิบัติคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการชุมนุมเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐในระดับต่างๆ อาจจะหมายถึงรัฐบาลถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดและต้องแสดงความรับผิดชอบ และลงโทษคนเหล่านี้เช่นเดียวกับผู้ที่สร้างความรุนแรง

นายไชยยันต์ กล่าวว่า หากรัฐไม่ปรับท่าทีตามข้อเรียกร้องของพวกเราก็เท่ากับว่ารัฐพยายามนำสังคมไทยไปสู่สงครามกลางเมือง บ้านเมืองจะจลาจล เกิดการนองเลือด สุดท้ายการรัฐประหารจะไม่สามารถนำความสงบกลับคืนสู่สังคมได้ จะมีสงครามกลางเมืองยืดเยื้อยาวนาน สร้างความเสียหายให้กับชีวิตมนุษย์มากมาย
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ออกมาปกป้องประชาชนที่ใช้สิทธิในการชุมนุมโดยสงบ ที่ผ่านมารู้สึกเสียใจมากที่บุคคลระดับสูงในรัฐบาลระบุว่าเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นนั้นต้นเหตุคือพันธมิตรฯเป็นฝ่ายยั่วยุ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก เหมือนผู้หญิงที่ถูกข่มขืน แล้วโทษผู้หญิงเป็นต้นเหตุ หากใช้บรรทัดฐาน แบบนี้จะทำให้สังคมไทยแย่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนักวิชาการที่ร่วมลงชื่อจำนวน 145 คนนั้น มาจากหลายสถาบัน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.มหิดล ม.รามคำแหง ม.บูรพา ม.ขอนแก่น ม.มหาสารคาม ม.เชียงใหม่ ม.ราชภัฎร้อยเอ็ด ม.สงขลานรินทร์ ปัตตานี ม.สุโขทัยธรรมาธิราช เป็นต้น.
มาจาก http://www.newspnn.com/
น.ส.จุติรัตน์ ผดุงโรจน์วิทย์ sec1 ID5131601024

ทำตัวอย่างไร ถ้าใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

น่าสนใจไม่น้อยว่า หากมีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณืฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คนไทยจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และเจ้าหน้าที่รัฐจะมีอำนาจมากน้อยแค่ไหน
พิจารณาตามเนื้อหาพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 กำหนดว่า ห้ามไม่ให้บุคคลออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น


ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม มั่วสุม หรือกระทำการเป็นการยุยง
ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
a
ห้ามเสนอข่าว หรือทำให้แพร่หลายทั้งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด ที่มีข้อความอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ และห้ามใช้อาคารหรือไปอยู่ในสถานที่ต้องห้าม
ขณะที่พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินปี 2548 มาตรา 11 กำหนดให้เจ้าหน้าที่จับกุม และควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา และผู้สนับสนุนการกระทำผิด

ออกคำสั่งเรียกให้มารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือมาให้ถ้อยคำ ส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
a
ตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำลายอาคาร สิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งกีดขวางตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับเหตุการณ์ร้ายแรงให้ยุติโดยเร็ว เพราะหากปล่อยเนิ่นช้าออกไปจะทำให้ไม่อาจระงับเหตุการณ์ได้ทัน

เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบจดหมาย หนังสือ สิ่งพิมพ์ โทรเลข โทรศัพท์ หรือการสื่อสาร ตลอดจนสั่งระงับ ยับยั้งการติดต่อ หรือการสื่อสาร เพื่อป้องกันหรือระงับเหตุการณ์ร้ายแรง
ส่วนมาตรา 12 ระบุว่า การจับกุม และควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย ให้เจ้าหน้าที่ร้องขอต่อศาลขออนุญาตจับกุมและควบคุมตัวได้ไม่เกินเจ็ดวัน และต่อได้อีกคราวละเจ็ดวัน แต่ต้องไม่เกินกว่าสามสิบวัน
ขณะที่มาตรา 18 กำหนดว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามาตรา 9 และมาตรา 11 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่อนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 5131601155 Sec.1

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ประกาศ เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษา

มหาวิทยาลัย ขอประกาศให้นักศึกษางดเว้นการสัญจร ออกกำลังกาย หรือเดินเล่น บนเส้นทางไปยังเขื่อนหลังมหาวิทยาลัย ในช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตก เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเปลี่ยว ที่ไม่ค่อยมีผู้สัญจรผ่านไปมา ซึ่งหน่วยรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยอาจดูแลไม่ทั่วถึงตลอดเวลา ทำให้อาจมีผู้ที่ประสงค์ร้าย กระทำอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาปฏิบัติตามอย่าง เคร่งครัด ทั้งนี้หากนักศึกษาพบเหตุด่วนเหตุร้าย ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย สามารถแจ้งไปยัง หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 0 5391 6999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 5131601155 Sec.1

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

บทความ พระราชดำรัส ในหลวง เรื่องความสามัคคี


ภายหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำการบุกสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงมีการบุกยึดสถานที่ราชการสำคัญๆ อีกหลายแห่งของกรุงเทพมหานคร รวมถึงการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล และถนนสายหลักสำคัญอีกหลายแห่งนั้น ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองไทย ณ เวลานี้วุ่นวายไปหมด สำคัญสาเหตุสำคัญๆ ที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้คงเป็นเพราะคนในชาติเกิดความเห็นแยกแตก คิดเห็นแตกต่าง และที่สำคัญคือการขาดความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งผลของการขาดความสามัคคีของคนในชาตินี้ส่งผลกระทบต่อเมืองไทยแน่นอน อย่างไรก็ตามวันนี้เราจึงขอยกตัวอย่าง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเน้นเรื่องความสามัคคีของคนในชาติ มุ่งให้คนไทยมีความรักใคร่กลมเกลียว สมัครสมานสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง คงความเป็นชาติไทยไว้ได้ ดังความตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ทหารรักษาพระองค์ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม 2512 ว่า "...ชาติของเรารักษาเอกราชอธิปไตยมาได้จนถึงทุกวันนี้ด้วยความสามัคคี คนไทยเราแต่ละคน รู้จักประโยชน์ส่วนรวมของชาติ รู้จักปฏิบัติหน้าที่ให้สอดคล้องและเกื้อกูลกัน ผลการปฏิบัติของเรานั้นจึงเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ซึ่งสามารถกำจัดและป้องกันภัยต่างๆ มิให้ทำอันตรายแก่เราได้ แม้จะมีศัตรูคิดร้าย บุกรุกคุกคามอย่างหนักหนาเพียงใด เราก็ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ ขอให้ทุกคนสำนึกตระหนักว่า ความสมัครสมานสามัคคีของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะต้องรักษาไว้ให้ยั่งยืนอยู่ตลอดไป หากเรามีความประมาท เราแตกสามัคคีกันเมื่อใด เราก็จะเป็นอันตรายย่อยยับลงเมื่อนั้น ไม่มีใครอื่นที่ไหนจะช่วยเราได้นอกจาก ตัวเราเอง..."และกระแสพระราชดำรัส ที่พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2494 ดังความตอนหนึ่งว่า"…ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้ปรากฏตลอดมาว่าชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป ก็เพราะประชาชาติขาดสามัคคีธรรม แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ ประหัสประหารซึ่งกันและกัน บางพรรคบางพวก ถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรูมาจู่โจมทำลายชาติของตนดังนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ให้ระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นให้จงหนัก แล้วถือเอาความสามัคคี ความยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเป็นคุณธรรมประจำใจอยู่เนืองนิจ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลาย จงบำเพ็ญกรณีกิจของตนแต่ละคน ด้วยซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากแค้น เป็นพลีบูชาบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบัดนี้"
นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 5131601155 Sec.1

พธม.เกณฑ์ผู้หญิง-คนแก่ เป็นโล่ห์กันตร.บุกจับแกนนำ



กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ ในช่วงก่อนเวลา 08.00 น.มีจำนวนค่อนข้างบางตา เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ปักหลักอยู่ภายในทำเนียบฯ แต่ในช่วงสายมีผู้ชุมนุมทยอยมาสมทบมากขึ้น หลังจากที่มีการยืนยันจากตำรวจว่าจะพยายามขออนุมัติหมายจับ 5 แกนนำให้ได้ภายในวันนี้ โดยบนเวทีสะพานมัฆวานฯยังคงมีการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีการถ่ายทอดสัญญาณเอเอสทีวีจากภายในทำเนียบฯ
ขณะที่นายวีระ สมความคิด แนวร่วมพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีเมื่อเวลา 08.40 น. ได้บอกให้ผู้ชุมนุมนอนหลับพักผ่อนเพื่อเอาแรงไว้ และรอคำสั่งจากแกนนำอีกครั้ง ส่วนด้านหลัง บช.น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังเพื่อรอคอยสับเปลี่ยนกำลังโดยจอดรถปิดถนนด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ กว่า 400 นาย ขณะที่ช่วงที่มีการสับเปลี่ยนกำลังนั้น กลุ่มพันธมิตรฯเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาสลายชุมนุม จึงได้เกณฑ์คนแก่และผู้หญิงมานั่งชิดรั้วแยก
มิสกวัน เพื่อเตรียมสกัดกั้น

นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 5131601155 Sec.1

ตี3 ตร.หลายพันลุยใช้ตะบองปะทะพันธมิตรบุกเข้าทำเนียบแล้ว "การ์ด"ได้เลือดนับสิบ ทะยอยวางกำลังล้อมม็อบ




สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล รายงานเมื่อเวลา 03.00 น. ของเช้ามืดวันที่ 27 สิงหาคมว่า ได้มีตำรวจปราบจราจลพร้อมโล่ห์และตะบองครบชุดหลายพันนายได้มาปักหลักที่บริเวณถนนพิษณุโลก บริเวณด้านสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้พยายามบุกเข้ามาด้านประตู 4 ด้านถนนพิษณุโลก โดยสามารถผ่านเข้าประตูมาได้บางส่วน ปรากฏว่า กลุ่มป้องกันการชุมนุมของพันธมิตร(การ์ด)ได้พยายามผลักดันออกไป จนมีการผลักไสออกนอกประตู แต่กำลังของตำรวจมากกว่า และใช้ตะบองตีกลุ่มพันธมิตรจนหัวแตกนับสิบคน ทำให้ตำรวจปราบจราจลสามารถทะลุประตู 4 เข้ามาได้นับพันคน และระหว่างนี้ ไปปักหลักอยู่บริเวณตึกสันติไมตรี
อย่างไรก็ตาม บนเวทีพันธมิตรในทำเนียบรัฐบาล ยังปราศรัยอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังตำรวจที่บุกเข้าทำเนียบฯได้เริ่มทะยอยปิดล้อมกลุ่มผู้ชุมนุม และเพิ่มจำนวนตำรวจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ พล.จำลอง ศรีเมือง ได้ประสานให้ม็อบที่สะพานมัฆวานได้เสริมทัพที่ทำเนียบฯ ด้วย เนื่องจากตำรวจที่เข้าทำเนียบฯได้ ได้เดินเป็นขบวนแสดงพลังและทะยอยปิดล้อมม็อบทีละจุด ทำให้กลุ่มรักษาความปลอดภัยของพันธมิตร ต้องไปตั้งแถวประจันหน้ากับตำรวจปราบจราจล จำนวนมาก ที่หลังตึกไทยคู่ฟ้า นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรอีกกลุ่มหนึ่งไปตั้งแถวประจันหน้าตำรวจที่ถ.พิษณุโลก บริเวณประตู 4 และประตู 7 ด้านคลองผดุงกรุงเกษม
ทั้งนี้ การบุกเข้าทำเนียบฯของตำรวจปราบจราจลครั้งนี้ อ้างว่า เข้ามาเพื่อสับเปลี่ยนกำลังพล และของตั้งศูนย์บัญชาการที่ตึกสันติไมตรี แต่กลุ่มพันธมิตรยังไม่ยอม ทำให้ 5 แกนนำต้องหารือกันอย่างเร่งด่วน



นางสาวภูริดา จุลกะรัตน์ 5131601155 Sec.1