วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

โปรดเกล้าฯแล้ว สมชาย ลั่นทํางานซื่อสัตย์


หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายสมชายได้ ประกาศจะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์และยึดหลักกฎหมายและคุณธรรมในการทำงาน
“สมชาย” ฟังปัญหาข้อพิพาทกัมพูชา
ความเคลื่อนไหวของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ภายหลัง ได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 นั้น เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เวลา 09.00 น. นายสมชายได้ออกจากบ้านพัก หมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ มาถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับฟัง บรรยายสรุปงานด้านการต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ การดำเนินงานกรณีเขาพระวิหาร โดยมีนายวีรศักดิ์ ฟู- ตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศรายงาน ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกฯและ รมว.คลัง เข้าร่วมฟังบรรยายด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสมชายให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ นพ.สุรพงษ์ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการต่างประเทศ ได้มาร่วมกันหาข้อมูล ปัญหาที่เกิดขึ้น เดิมอดีตรมว.ต่างประเทศได้เจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาในปัญหาตามที่เป็นข่าว การเจรจาเป็น ไปได้ด้วยดี มีความเข้าใจ โดยประสงค์ให้มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันและขจัดปัญหาที่มีอยู่ การดำเนินการต่างๆเป็น ไปได้ด้วยดี และจะมีความเห็นแจ้งไปยังกัมพูชาว่า ไทย ยินดีจะเจรจาทำความเข้าใจ เพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน อาจจะมีการประชุมทวิภาคีในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 29 ก.ย. อาจจะใช้ช่วงเวลานั้น เพื่อประสานสัมพันธ์
รุกหารือคลังรับมือวิกฤติเศรษฐกิจ
ต่อมาเวลา 11.20 น. ที่กระทรวงการคลัง นายสมชาย พร้อมด้วย นพ.สุรพงษ์เดินทางมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีกลุ่มบริษัทวณิชธนกิจยักษ์ใหญ่สหรัฐฯขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยเมื่อมาถึง ก่อนขึ้นห้องประชุม นพ.สุรพงษ์ได้พานายสมชายสักการะช้างคู่เอราวัณของกระทรวงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์ ได้กล่าวกับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช. คลัง ที่มายืนรอต้อนรับสั้นๆว่า “ไม่ต้องห่วง เขาคงมีคนมาทำหน้าที่แทนผม”
“สุรพงษ์” ประกาศยุติทุกตำแหน่ง
ต่อจากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง ถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯขาดสภาพคล่องทางการเงิน ใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง ระหว่างการแถลงข่าว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงข่าวการวางมือไม่รับตำแหน่งใดๆในรัฐบาลชุดใหม่ว่า ส่วนตัวเคยแจ้งไว้กับนายกรัฐมนตรีว่ากรณีที่ตัวเองติดปัญหาคดีหวยบนดิน ในช่วงที่ผ่านมามีการประทับรับฟ้อง ของศาล แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ไม่ได้มีการพิจารณาว่าผู้ที่ถูกร้องนั้นจะต้องยุติการทำ หน้าที่หรือไม่ ทำให้ยังมีความไม่ชัดเจนว่าการถูกฟ้องในตำแหน่งเดิม จะสามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ได้ หรือไม่
“เมื่อมีการสรรหารัฐมนตรีชุดใหม่ ผมได้แจ้งความจำนงต่อที่ประชุมพรรคพลังประชาชนว่า เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจว่าผมยังยึดติดตำแหน่งหรือดื้อแพ่ง ไม่กังวลเกี่ยวกับการตีความเรื่องเหล่านี้ จึงขอที่จะเว้นวรรคหยุดในการที่จะเสนอชื่อของตัวเองทำหน้าที่ในตำแหน่งทางการเมืองไว้ชั่วคราวก่อน แต่ยังจะร่วมมือทำงานกับทุกคนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาบ้านเมืองต่อไป ยังไม่ห่างหายไปไหน ผมยังมีตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชาชนที่ยังไม่ได้ลาออก” นพ. สุรพงษ์กล่าว
“สมชาย” ลั่นจะขอให้อยู่ช่วยงานต่อ
ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่าจะขอให้ นพ.สุรพงษ์อยู่ต่อ เพราะเห็นว่าเป็นบุคลากรที่ดี มีความรู้ความสามารถ ทั้งนี้ เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ต้องรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯก่อน ยังไม่สมควรพูดตอนนี้ หลังจากนั้นค่อยมาพูดกับท่านอีกที ผู้สื่อข่าวถามถึงรายชื่อของนายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง ที่มีกระแสข่าวจะมาร่วมงานในตำแหน่ง รมว.คลัง นายสมชายตอบว่า ไม่รู้ว่าข่าวจากไหน ยังงงๆอยู่ เรื่อง ครม.ต้องรอการโปรดเกล้าฯก่อน
โยนเรื่องแก้ รธน.เป็นเรื่องรัฐสภา
จากนั้นเวลา 13.30 น. นายสมชายเดินทางมายังรัฐสภาเพื่อเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุม พร้อมแวะทักทายบรรดา ส.ส.ที่มาประชุมครู่หนึ่ง โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนเดินทางมาที่พรรคพลังประชาชน ทั้งนี้ นายสมชาย ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวในข้อเสนอต่างๆของพันธมิตรฯ ที่ถามว่า จะรับไปพิจารณาหรือไม่ว่า เราคนไทยด้วยกันทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ คงจะหาช่องทางตรงนั้น อย่างไรก็ต้องช่วยพิจารณากันไปตามหลักเกณฑ์ เหตุผลที่ดีที่สุด เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯยืนกรานที่จะไม่ให้ แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมชายตอบว่า ความเห็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมีมานาน แต่ยังไม่ตกผลึก ขอให้ใจเย็นๆ เป็นเรื่องของสภาฯไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล เมื่อถามว่าจะทบทวนการทำประชามติที่รัฐบาลนายสมัครเคยมีแนวทางไว้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า หลังมีรัฐบาลใหม่คงจะชัดเจน ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ โปรดเกล้าฯแล้วค่อย ว่ากัน ตนเป็นนักกฎหมาย เคร่งครัดเรื่องขั้นตอน
จัดสถานที่เตรียมรับราชโองการ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เลขที่ 222/92 ในหมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่กองพิธีการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดเตรียมสถานที่ที่จะใช้ในการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 โดยจะใช้บริเวณห้องโถงด้านหน้าของบ้านเป็นที่ตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ และโต๊ะสำหรับใช้ในพิธีรับพระบรมราชโองการ แต่โต๊ะที่เคยใช้ไม่สามารถนำออกจากทำเนียบรัฐบาลได้ ทางกองพิธีการจึงขอยืมจากรัฐสภา ส่วนธงประจำตัวนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ได้จัดทำขึ้นใหม่ สำหรับการเตรียมการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น. ได้มาดูแลด้วยตนเอง โดยมีการจัดกำลังตำรวจดูแลตั้งแต่ซอยทางเข้าหมู่บ้านจนถึงบริเวณบ้านพัก ขณะเดียวกันได้มีการราดยางมะตอยที่ถนนบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชายกล่าวเพียงสั้นๆ ถึงกรณีที่มีข่าวว่า นางเยาวภาจะไม่ให้ สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าจะทำงานเป็นแม่บ้าน ด้านนางสุทธิลักษณ์ ศรสำราญ น้องสาวนายสมชาย ก็ได้นำภาพสมัยที่นายสมชายเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ และสมัยเป็นนักศึกษาที่ ม.ธรรมศาสตร์ มาให้กับสื่อมวลชนดู โดยกล่าวว่าทางครอบครัวรู้สึกดีใจ ที่นายสมชายได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูล และที่ผ่านมา นายสมชายเป็นคนที่เรียนเก่งเรียนดีมาโดยตลอด
พี่ชายปลื้มเป็น 1 ใน 60 ล้านคนไทย


เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังได้นำช่อดอกไม้จำนวน 5 ช่อ มาแสดงความยินดีกับนายสมชาย โดยเป็นของ รมว.คลัง 1 ช่อ รมช.คลัง 3 ช่อ ปลัดกระทรวงและข้าราชการ 1 ช่อ จากนั้นเวลา 14.15 น. นายเฉลิม วงศ์สวัสดิ์ พี่ชายของนายสมชาย ได้นำรูปครอบครัวออกมาให้สื่อมวลชนดู พร้อมกับกล่าวว่า นายสมชายเป็นคนชอบกินอาหารใต้ โดยเฉพาะคั่วกลิ้งหมูสับ แกงเหลือง และแกงไตปลา วันนี้ตนจึงได้สั่งอาหารใต้ที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นร้านอาหารที่นายสมชายชอบกิน มาเลี้ยงแขก และผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ รู้สึกภูมิใจที่น้องชายก้าวมาถึงจุดสูงสุดในชีวิต นายสมชายเกิดตอนฟ้าสาง เป็นช่วงที่มีแสงทองจากพระอาทิตย์สาดส่องลงมา ซึ่งเป็นความเชื่อของคนใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า เป็นเด็กที่มีบุญและจะได้เป็นใหญ่เป็นโต นายสมชายเป็นคนที่มีความจำดี ขยัน ที่ผ่านมาจึงได้ทุนเรียนฟรีตั้งแต่ ป. 4 และพ่ออยากให้เป็นผู้พิพากษา การก้าวมาถึงวันนี้ เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวอย่างมาก ถือเป็น 1 ใน 60 ล้านคน ที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้
คนร่วมแห่แสดงความยินดีคึกคัก
ต่อมาเวลา 16.10 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาที่บ้านพักของนายสมชาย เพื่อตรวจความเรียบร้อยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนได้ทยอยเดินทางมาที่บ้านพักของนายสมชายตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อร่วมแสดงความยินดีและเตรียมเข้าร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกระทรวงต่างๆ ตัวแทนภาคเอกชน นักธุรกิจ ทยอยเดินทางมาร่วมงานคับคั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเสร็จภารกิจ นายสมชายได้เดินทางกลับถึงบ้านพัก ในเวลา 16.30 น. ท่าม กลางสื่อมวลชนที่รุมล้อมถ่ายภาพ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า ตื่นเต้นหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ไม่ตื่นเต้นแล้ว เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เหนื่อยอย่างมีความสุข
เชียงใหม่เตรียมบายศรีสู่ขวัญนายกฯ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นเขยเชียงใหม่ ตนได้ประสานกับ ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อจัดงานพิธีบายศรีสู่ขวัญ จะทำตามแบบพิธีของคนเหนือ คาดว่าจะมีประชาชนและคนเฒ่าคนแก่มาร่วมงานดังกล่าวด้วยจำนวนมาก ส่วนวันและเวลาที่เหมาะสมจะต้องกราบเรียนนายกรัฐมนตรีว่าสะดวกช่วงไหน
“ชัย” นำชื่อ “สมชาย” ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะประธานรัฐสภา ได้เดินทางออกจากรัฐสภาเพื่อเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนำรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นนายก รัฐมนตรี ขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย โปรดเกล้าฯ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนายชัยกล่าวว่า หลังจากทรงโปรดเกล้าฯแล้ว ตนพร้อมคณะจะนำพระบรมราชโองการฯไปยังบ้านของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี
“สมชาย” รับพระบรมราชโองการฯ
ต่อมาเวลา 18.54 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 ถึงบ้านพักของนายสมชาย โดยนายสมชายพร้อมครอบครัวรอรับร่วมพิธี โดยเมื่อเดินทางมาถึงนายพิทูรได้อ่านประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ใจความว่า (พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ปร.พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 182 วรรค 1 (7) และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร จึงทรง พระราชดำริว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้ที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งพระราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 18 กันยายน พุทธศักราช 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
“สมชาย” จัดพิธีรับพระบรมราชโองการฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว จึงอัญเชิญพระบรมราชโองการฯไปวางที่โต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับ กลับไปยืนประจำที่ จากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ถวายคำนับ แล้วเดินออกไปยืนตรงกลางหน้าโต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยกระทงดอกไม้แล้วกราบ จากนั้นลุกขึ้นยืนถวายคำนับ จึงเป็นเสร็จพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จพิธีรับพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว นายชัย ชิดชอบ ได้เข้าไปแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีประมาณ 10 นาที โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะรัฐมนตรีเร็วๆ และให้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 22 ก.ย.นี้
ลั่นบริหารชาติยึดสุจริต-คุณธรรม
จากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงเปิดใจว่า “วันนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ผมนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินสนองพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ล้นพ้นหาที่สุดไม่ได้ในครั้งนี้ เป็นสิริมงคลแก่กระผมและครอบครัวอย่างสูงสุด กระผมจะขอเทิดทูนไว้เหนือชีวิตด้วยความจงรักภักดีตลอดไปพี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพทุกท่าน กระผมขอยืนยัน ณ โอกาสนี้ว่าจะบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยการทุ่มเทเสียสละด้วยวิริยะอุตสาหะ ด้วยความมีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ยึดมั่นในหลักแห่งกระบวนการยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรมเรียบร้อยในบ้านเมืองของเรา
เน้นปรองดองสมานฉันท์-ให้อภัย
“พี่น้องประชาชนที่เคารพ ขณะนี้ในประเทศบ้านเมืองของเรานั้นก็มีปัญหาที่จะต้องดำเนินการแก้ไข เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าบางครั้งเรามีความขัดแย้งทางความคิด ความขัดแย้งเหล่านั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เราจะต้องมองว่าเกิดขึ้นแล้วทำอย่างไร จึงจะนำพาไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์และความเป็น ปึกแผ่นของบ้านเมืองเราต่อไป ผมคิดว่าสิ่งนี้คงต้องคิดกันอย่างรอบคอบและมีเหตุผล ผมประสงค์ที่จะให้พี่น้องประชาชนชาวไทยของเรา ได้กลับมาร่วมกันคิด คิดว่าความเป็นพี่เป็นน้องของเรานั้นจะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ความเป็นชาติ ความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ความเจริญก้าวหน้าของพี่น้องประชาชนร่วมกันนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราน่าจะหันหน้าเข้ามาสู่ความปรองดองความอะลุ่มอล่วยให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ถือโทษโกรธกันและจะต้องมีความเมตตาอารี เอื้ออาทรแก่กัน ผมคิดว่าสิ่งนี้ย่อมมีอยู่ในหัวใจของเราทุกคนว่าถ้าหากว่าเราได้ดำเนินการมีวิธีคิดที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม พ่อแม่พี่น้องเคารพทุกท่านครับ ผมคิดว่าหากเราได้ยึดหลักอย่างนี้แล้ว ประเทศชาติของเราจะกลับคืนมาสู่ความร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทำให้เราร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้พัฒนาถาวรต่อไป”
เร่งแก้ปัญหาศก.-ปากท้องชาวบ้าน
นายสมชายกล่าวต่อว่า ขณะนี้เรามีปัญหาอื่นๆที่จะต้องร่วมกันแก้ไขกันอีกมากมาย ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องของประชาชน ซึ่งรัฐบาลของตนที่จะได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ในเร็ววันนี้จะคำนึงถึงประโยชน์สุข ความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน เป้าหมายสูงสุดก็คือการร่วมกันนำพาประชาชนของเรา ประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและวัฒนาถาวร เรามีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าหลายด้าน อย่างปัจจุบันนี้เรื่องเกี่ยวกับเงินทุนที่ค่อนข้างจะไหลเข้ามาน้อยในประเทศของเราหรือปัญหาที่บริษัทต่างชาติ ซึ่งมีเงินทุนจำนวนมากเกิดประสบความล้มเหลวในการบริหาร กระทบกระเทือนถึงภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรา หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ผสมผสานกัน ตนคิดว่าถ้าหากไม่ช่วยกันแก้ไขแล้วใครจะมาช่วยเราแก้ไข คนไทยเท่านั้นที่จะต้องหันหน้าเข้าหากันและร่วมมือกันแก้ไขสิ่งซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเรา
ขอคนไทยทั้งชาติรวมใจแก้ปัญหา
“ผมขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านช่วยกันครับ ทุกท่านเป็นหุ้นส่วนของประเทศของเรา รัฐบาลนั้นเป็นผู้มีหน้าที่ให้เกิดพลัง และผลักดันให้ประเทศชาติของเราได้เดินหน้าต่อไป แต่หากมีมุ่งมั่นอย่างไรก็ตาม ประชาชนในชาติไม่รักสามัคคีกัน ไม่ร่วมกันผลักดันแล้วก็คงสำเร็จลงไปได้ยาก ผมหวังว่าพี่น้องประชาชนทั้งหลายคงได้ร่วมกัน ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกท่านที่จะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกันนะครับ เข้ามาร่วมกันในการที่จะสรรค์สร้างความรักความสามัคคี ในการที่จะร่วมกันเสริมสร้างภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้แก่บ้านเมืองของเรา ขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนเพื่อนข้าราชการที่จะได้นำเอานโยบายทั้งหลายความประสงค์ ของพี่น้องประชาชนทั้งหลายไปปฏิบัติการให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นถ้าทุกฝ่ายทุกท่านได้ร่วมมือกันแล้ว ผมมั่นใจว่าความประสงค์ของเราทุกคนจะประสบความสำเร็จพร้อมกันนำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในที่สุด ขอกราบขอบคุณทุกท่านครับ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 กล่าว
“ทักษิณ” พูดผ่านสื่อเทศอ้างถูกใส่ร้าย
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก-รัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ จากบ้านที่พักในย่านเซอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ กรุงลอนดอน เมื่อ 18 ก.ย. หรือ 1 วัน ก่อนวันครบรอบ 2 ปี ที่เขาถูกก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อ 19 ก.ย. 2549 โดยกล่าวว่า การที่ตนถูกกล่าวหาในคดีคอรัปชัน เป็นส่วนหนึ่งของแผนสมรู้ร่วมคิดโดยเหล่าศัตรูทางการเมือง ตนจะไม่กลับมาสู้คดีในประเทศไทย คดีที่มีมูลเหตุจูงใจจากการเมืองต้องแก้ด้วยวิถีทางการเมือง ตนถูกใส่ร้ายทางการเมือง จะกลับประเทศไทยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ตอนนี้ต้องทุ่มเทเวลาให้กับลูกๆและภรรยา ขณะใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ
งดพูดเรื่องน้องเขยนั่งนายกฯ
การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ภริยา ออกแถลงการณ์ เมื่อ 11 ส.ค. ว่าตนหนีประกันในคดีคอรัปชันไปอยู่ในอังกฤษ โดย พ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีสภาผู้-แทนราษฎรลงมติเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย เป็น นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนนายสมัคร สุนทรเวช อย่างไร ก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณไม่วายกล่าวเสียดสีพันธมิตรประ-ชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กรณีที่ พธม.กล่าวหานายสมัครว่าเป็นหุ่นเชิดของตน และนายสมชายก็เป็นแค่ผู้นำคนใหม่ของกลุ่มโจร ว่า พธม.อยากพูดอะไรก็ให้พูดไป ต่อแต่นี้ไปทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการจะทำบนโลกนี้ คุณต้องได้รับอนุญาตจาก พธม.เสียก่อนจึงจะทำได้ พ.ต.ท.ทักษิณเผยด้วยว่า อยู่สุขสบายดีในบ้านพักที่อังกฤษ โดย น.ส.แพทองธาร ลูกสาวคนเล็ก กำลังจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ กิจวัตรประจำวันของตน คือการออกกำลังกายและไปเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูง ร่างกายตนแข็งแรงสมบูรณ์ดี แต่จิตใจไม่มีความสุข ใครที่ไม่ได้ ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับตนไม่รู้หรอกว่าตนรู้สึกอย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับ การเจรจาขายสโมสรฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ให้ บริษัทในอาบู ดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีรายงานว่า มีมูลค่าถึง 200 ล้านปอนด์ สูงกว่าที่ซื้อมาในราคา 81 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2550 อย่างมาก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณเผยว่า ตนกำลังเฝ้าติดตามวิกฤติการเงินในสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีโอกาสมากมายในสหรัฐอเมริกา แต่ เนื่องจากเงินของตนถูกอายัด ตนจึงไม่มีโอกาสเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากโอกาสที่ว่านี้
พปช.ล่าชื่อต้าน “สุวิทย์” ร่วม ครม.
ด้านความเคลื่อนไหวแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีของกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคพลังประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่านายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค เพื่อแผ่นดิน จะกลับมาเป็นรองนายกฯ และ รมว.อุตสาห-กรรมอีกครั้งในรัฐบาลนายสมชายนั้น ได้มี ส.ส.พลังประชาชน หลายคนเคลื่อนไหวต่อต้าน โดยมีนายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น เป็นผู้รวบรวมรายชื่อ ส.ส.ที่ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะให้นายสุวิทย์มารับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะในสมัยเป็นรองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรมในรัฐบาลสมัคร ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านใน ครม.มาตลอด เมื่อล่ารายชื่อเสร็จแล้ว ส.ส.กลุ่มดังกล่าวจะนำรายชื่อทั้งหมดมอบให้กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทันทีหลังจากที่นายสมชายได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯ ล่าสุดมี ส.ส.มาร่วมลงชื่อประมาณ 100 คนแล้ว
ชี้หมดความชอบธรรมขึ้นเป็น รมต.
นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคร่วม ลงชื่อคัดค้านไม่ให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้เพราะไม่มีความชอบธรรม ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศถอนตัวไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนจน ส.ส.ในพรรคเพื่อ-แผ่นดินไม่เห็นด้วย อีกทั้งยังฝักใฝ่กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลวิจารณ์ว่ารัฐบาลพรรคพลังประชาชนจะไปไม่รอด ทั้งๆที่อยู่ใน ครม. ทุกคนรู้ดีว่าการที่นายสุวิทย์ไปนั่งประชุมกับแกนนำ เราก็รู้ดีว่าไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่ไม่มี ส.ส.อยู่ในมือ ดังนั้น หากนายสุวิทย์แน่จริงให้ไปรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อแผ่นดิน มาสนับสนุนนายสุวิทย์เป็นรัฐ-มนตรี ทั้งนี้ มองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่จำเป็นต้องมีนายสุวิทย์ มาร่วม ครม. รัฐบาลก็สามารถทำงานต่อไปได้
40 พปช.ประกาศต้าน “สุวิทย์”
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. ที่รัฐสภา นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส. อุดรธานี พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี ได้แถลงข่าว พร้อมนำรายชื่อ ส.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะ ส.ส.ทั้งหมดของ จ.ขอนแก่น สังกัดพรรคพลังประชาชนจำนวน 40 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเพื่อนเนวิน มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยนายสุชาติกล่าวว่า ส.ส.ทั้งหมดได้ร่วมกันลงชื่อถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมานายสุวิทย์มีพฤติกรรมที่ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มาโดยตลอด และยังเคยประกาศถอนตัวจากรัฐบาลมาแล้ว โดยที่ ส.ส.ในพรรคเพื่อแผ่นดินเองไม่มีใครเห็นด้วย ที่สำคัญเป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ทำให้การเมืองไม่แข็งแรง อยากให้ผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชาชนคัดเลือกรัฐมนตรีที่รักบ้านเมืองรักประเทศ ไม่ใช่พอมีคนสะกิดอยู่ข้างหลังแล้วก็รีบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
อัดมีพฤติกรรมจ้องล้มรัฐบาล พปช.
เมื่อถามว่า คนที่สะกิดอยู่ข้างหลังหมายถึงใคร นายสุชาติตอบว่า ไม่รู้ว่านายสุวิทย์กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีอะไรถึงกันหรือเปล่า พฤติกรรมของนายสุวิทย์ขณะร่วมรัฐบาลได้แสดงออกถึง 2 ครั้งสองคราวว่ามีเจตนาที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ ขอย้ำว่าพวกตนไม่ได้ก้าวก่ายการคัดเลือกรัฐมนตรีภายในพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่มีเจตนาให้ดูที่ตัวบุคคลที่ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชนจะเลือกเข้ามารับตำแหน่ง ควรเลือกคนที่รักบ้านเมืองจริงๆ ต้องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองจริงๆเท่านั้น
ขณะที่นายวิเชียร ขาวขำ กล่าวเสริมว่า การล่าชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นให้ผู้ใหญ่ของพรรคพิจารณาในครั้งนี้เป็นเรื่องภายในพรรคพลังประชาชนที่เห็นตรงกันในทุกภาค จึงได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และรองเลขาธิการพรรคให้ทบทวนการจะแต่งตั้งนายสุวิทย์เข้ามาอีกเพราะคนผู้นี้ไม่เหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีใน ครม.ชุดนี้ เนื่องจากไม่พยายามทำตัวให้กลมกลืนกับคนในรัฐบาล เชื่อว่าผู้ใหญ่จะฟังเรา
มั่นใจ พผ.ไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า การทำเช่นนี้ไม่เกรงว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือ นายวิเชียรตอบว่า มั่นใจว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลแน่ เพราะคนในพรรคเพื่อแผ่นดินเองก็ไม่อยากให้นายสุวิทย์กลับมาเป็นรัฐมนตรีเช่นกัน เมื่อถามว่า คนในพรรคเพื่อแผ่นดินสนับสนุนให้ออกมาไล่นายสุวิทย์ด้วยหรือไม่ นายวิเชียรตอบว่า ก็ทำนองนั้น
“เด็กสุวิทย์” สวน พปช.อย่าก้าวก่าย
เย็นวันเดียวกัน นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท รองเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ 40 ส.ส.พรรคพลังประชาชนล่ารายชื่อไม่เอานายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรัฐมนตรีว่า ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนไม่ ควรจะมาก้าวก่ายเรื่องภายในพรรคอื่น เพราะนายสุวิทย์เป็นหัวหน้าพรรค ที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุม ส.ส.ของพรรคให้เป็นตัวแทนในการเจรจาเข้าร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อแผ่นดินก็ไม่มีเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ด้วยดี ควรให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันบ้าง ส.ส.ขอนแก่นของพรรคพลังประชาชนก็น่าจะภูมิใจที่คน จ.ขอนแก่น ได้เป็นรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารประเทศ ถือเป็นเกียรติภูมิให้กับจังหวัด แต่ทำไมกลับเอาเรื่องส่วนตัวที่ต้องต่อสู้กันในการเลือกตั้งมาเป็นประเด็นต่อต้าน เพราะจริงๆแล้วนายสุวิทย์เองทำงานได้ดี ได้รับการยอมรับจากสังคมในระดับหนึ่ง ขอให้ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนที่ลงชื่อทั้ง 40 คนได้ทบทวนบทบาทของตัวเอง ไม่ควรจะมาก้าวก่ายแทรกแซงพรรคการเมืองอื่น
ระบุ “สุวิทย์” ไม่รับเก้าอี้ รมต.
ด้านนายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และ ส.ส.สัดส่วนกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนถือเป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่พรรคพลังประชาชนเองต้องเคลียร์ในส่วนของพรรคตัวเองก่อนว่ามีความคิดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร เข้าใจว่านายสุวิทย์อาจจะไม่รับตำแหน่งใดๆก็ได้ เพราะทราบมาว่าอาจมีบุคคลอื่นซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดิน และมีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถจะเป็นรัฐมนตรีแทนได้ เนื่องจากที่ผ่านมานายสุวิทย์เคยประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลสมัครมาแล้ว
“สุรพงษ์” พร้อมนั่งเลขาฯ พปช.ต่อ
วันเดียวกัน ที่กระทรวงการคลัง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้หารือภายในพรรคพลังประชาชนว่า ใครจะมานั่งในตำแหน่ง รมว.คลัง ส่วนชื่อที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์คือ นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง และนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ไม่ทราบว่าใครให้ข่าว เพราะภายในพรรคยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้
“ส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่ง รมว.คลังนั้น ต้องเป็นคนที่พรรคหามา หรือเป็นบุคคลภายในพรรคและต้องมีความรู้ความสามารถด้านเงินการคลัง ส่วนผมนั้นแม้จะไม่ได้นั่งตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลใหม่ แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคและขอยืนยันว่า พรรคไม่ได้มีการแตกแยกหรือชิงตำแหน่งกันเอง แต่เป็นเรื่องปกติหากการจัดสรรบุคคลที่เหมาะสมยังไม่ลงตัว หรือไม่มีความชัดเจน ก็มีข่าวเรื่องจัดโควตาตามกลุ่มก้อนต่างๆ” นพ.สุรพงษ์กล่าว
พปช.วอนเลี้ยบทบทวนท่าที
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคพลังประชาชน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน และกลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลนายสมชายว่า นพ.สุรพงษ์ได้ย้ำหลายครั้งว่าจะไม่รับตำแหน่งใน ครม.ชุดนี้ ล่าสุดได้กล่าวในที่ประชุมพรรคพลังประชาชนว่าต้องการกลับไปช่วยธุรกิจ ครอบครัว ถ้าเลือกได้ก็อยากจะตัดสินใจเลือกทางที่ไม่ทำให้เกิดปัญหากับครอบครัว ทั้งนี้ พวกเรายังคิดว่า นพ.สุรพงษ์จะเปลี่ยนใจกลับเข้ามารับตำแหน่งได้ เพราะที่ผ่านมาได้ต่อสู้ร่วมกับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง และในเวลานี้ไม่ควรมีใครที่จะกระโดดหนีไป ต้องอยู่ช่วยกันนำรัฐนาวานี้ไปให้ตลอดรอดฝั˜ง พวกเรา ส.ส.อีสานทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุนทางการเมืองกับนพ.สุรพงษ์ ให้เดินหน้าต่อไปอยู่แล้ว หาก นพ.สุรพงษ์ไม่รับตำแหน่งเท่ากับว่าพรรคต้องสูญเสียบุคลากรคนสำคัญที่จะเข้าไปช่วยงานบริหารไป แต่ขณะนี้ยังเชื่อว่านพ.สุรพงษ์ อาจจะเปลี่ยนใจกลับมารับตำแหน่งได้ โดยผู้ใหญ่ของพรรคคงจะมีการพูดจากับนพ.สุรพงษ์ อีกครั้ง ฟังความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
โวมีความชำนาญการเมือง-เศรษฐกิจ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า อยากให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อยู่ช่วยประคับประคองรัฐบาลต่อไป เพราะมีความชำนาญด้านเศรษฐกิจและการเมือง ที่จะเป็นทีมงานช่วยประคับ ประคอง ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ทำงานได้ดี ครบถ้วนรอบด้าน ดังนั้นอยากให้ นพ.สุรพงษ์ ทบทวนการตัดสินใจดังกล่าว วันนี้พวกเราต้องลืมเรื่องที่ผ่านมาแล้วเดินต่อไปข้างหน้า ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น ยังไม่ทราบว่า นพ.สุรพงษ์จะงดรับตำแหน่งดังกล่าวด้วยหรือไม่
กลุ่มเพื่อนเนวินร้าว ส.ส.รุมโวย
ขณะที่นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเพื่อเนวินเตรียมจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีตามโควตาที่ได้มาให้ ส.ส.ว่า ที่ผ่านมาทุกคนรู้ว่าการที่ตั้ง ส.ส. 4 คนเดิมไปเป็นรัฐมนตรีในช่วงนั้น พวกเราเข้าใจดีในสถานการณ์ทางการเมือง แต่การจัดสรรเก้าอี้ ครม.ครั้งนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว การพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีต้องดูความเหมาะสมตามองค์ประกอบหลายอย่าง เหมือนประกาศทีโออาร์คุณสมบัติของรัฐมนตรีต้องมีพูดถึงพรรษาทางการเมือง ประสบการณ์ทางการเมือง องค์ความรู้ ไม่ใช่ใช้วิธีที่ไม่มีกฎเกณฑ์ ใครมีเงินเยอะ มี ส.ส.สนับสนุนแล้วเข้าสู่ตำแหน่งได้มันก็ไม่ชอบธรรม เนื่องจากภาพลักษณ์ของกลุ่มเพื่อนเนวินในวันนี้ ถูกมองว่าเป็นกบฏในพรรคพลังประชาชน ทั้งที่เราไม่ได้เป็นกบฏ ไม่ได้เกเร สั่งซ้ายก็ได้สั่งขวาก็ได้ แต่ได้ทำเพื่อความถูกต้อง ส.ส.ทุกคนมีวุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบ ดังนั้น การวางคนเข้าสู่ตำแหน่งผู้ใหญ่ในพรรคต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของกลุ่มด้วย อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้กลุ่มเพื่อนเนวินได้เรียกประชุม เพื่อให้ ส.ส. ที่เป็นแคนดิเดตที่จะเป็นรัฐมนตรีในกลุ่มได้รับการพิจารณา
ประกาศลั่นต้องหักดิบปลด 4 รมช.
“ต้องพิจารณาว่าคนที่จะเป็นรัฐมนตรีจะวางกฎเกณฑ์อย่างไร จะตั้งคนที่ใกล้ชิดใคร หรือตั้งคนที่มีคนลงชื่อสนับสนุนซึ่งกันและกันมาก มันไม่มีกฎเกณฑ์ เอาภาพลักษณ์ของเจ้าบุญทุ่มมาเป็นรัฐมนตรี ทำให้ถูกมองว่าเป็นวังวนการเมืองน้ำเน่า ทำให้คนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ทางการเมืองไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรี ที่ผ่านมาการตั้ง 4 รัฐมนตรีในกลุ่มเพื่อนเนวินยังรับได้ เพราะเขาเคยทำงานรับใช้ผู้ใหญ่ในพรรคมา เราก็หยวนๆกันไป แต่การตั้งรัฐมนตรีครั้งนี้ โดยยังยืนยันเอาคนเดิม 4 คนไม่เปลี่ยนแปลง ผมคิดว่ามีปัญหาแน่นอน เพราะไม่สามารถอธิบายเหตุผลของกลุ่มได้ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นคนนี้ ถ้าไม่มีกฎเกณฑ์การตั้งจะทำให้เป็นข้อข้องใจของสมาชิก ผมจึงขอสนับสนุนให้เปลี่ยนคน เพื่อเปรียบเทียบการทำงานกับรัฐมนตรีคนเก่าได้มากน้อยแค่ไหน มันจะเกิดหมุนเวียนในกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันไป เพราะวันนี้การเมืองคงจะอยู่ได้ไม่นานแน่” นายไชยากล่าว
แฉในกลุ่มตั้งโต๊ะล่าชื่อหนุนเป็น รมต.
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับรัฐมนตรีกลุ่มเพื่อนเนวิน 3 ตำแหน่ง ทั้งนายสุพล ฟองงาม รักษาการ รมช.มหาดไทย นายธีระชัย แสนแก้ว รักษาการ รมช.เกษตรฯ นายพงศกร อรรณนพพร รักษาการ รมช.ศึกษาฯ นายไชยาตอบว่า ขอเสนอให้เปลี่ยนทั้ง 4 คน เพื่อให้คนอื่นได้มีโอกาสทำงานบ้าง เมื่อถามว่า รวมถึงนายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคมด้วย นายไชยาตอบว่า ไม่เกี่ยว แต่ในหลักการขอเสนอให้เปลี่ยน 4 คน และให้รีบเรียกประชุมวางกฎเกณฑ์ ไม่ใช่ไปมุบมิบตั้งกัน แบบนี้มันไม่แฟร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี ส.ส.ในกลุ่มเริ่มล่ารายชื่อให้สนับสนุนเป็นรัฐมนตรี วิธีการแบบนี้ไม่ใช่การเมืองสมัยใหม่ ยังวนเวียนแบบน้ำเน่าอยู่ ที่พูดไม่ใช่เข้าข้างตัวเองหรือมีความกระสัน เพียงแค่ใครขึ้นมาเป็นก็ได้ แต่ต้องอธิบายด้วยเหตุด้วยผล อีกทั้งการเมืองในพรรคเป็นเรื่องที่ดีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ไปพูดในกลุ่มเพื่อนเนวินว่าจะปรับองค์กรของพรรค ให้ความสำคัญต่อทุกคน ไม่ได้เน้นที่กลุ่ม ดังนั้น การจะสร้างพรรคให้เป็นเอกภาพ เป็นที่ยึดเหนี่ยวกัน นักการเมืองต้องปรับตัว มันไม่ใช่นำปัจจัยอื่นมายึดเหนี่ยวกัน จะทำให้พรรคเป็นสถาบันไม่ได้
เล็งยึด มท.สลายฐาน “เนวิน”
ทางความคืบหน้าในการวางตัวบุคคลเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลสมชาย ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ได้ขอนั่งรองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรม แต่แกนนำพรรคเห็นว่าอาจจะให้ไปนั่งเป็นรองนายกฯหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเล็ก และกำลังพิจารณาที่จะให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการ รมว.ยุติธรรม ไปนั่ง รมว.มหาดไทย เพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือเลือกตั้งใหญ่และต้องการที่จะสลายเครือข่ายฐานกลุ่มเพื่อนเนวิน ส่วนโควตาของกลุ่มเพื่อนเนวินนั้น ล่าสุดมีความเป็นไปได้สูงที่นายสุพล ฟองงาม รักษาการ รมช.มหาดไทย จะหลุดตำแหน่ง เพราะเดิมเป็นโควตากลางแต่แอบอ้างเป็นโควตาของกลุ่มเพื่อนเนวิน ดังนั้น จะยึดคืนเป็นโควตากลาง ขณะที่นายธีระชัย แสนแก้ว รักษาการ รมช.เกษตรฯ มีแนวโน้มสูงที่จะหลุดตำแหน่งเช่นกัน เพื่อสลับให้ ส.ส.ในกลุ่มขึ้นเป็นแทน ทั้งนี้ ตำแหน่งต่างๆ จะมีการพิจารณาโดยแกนนำของพรรคอาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรค เมื่อพิจารณาเสร็จเรียบร้อยจะแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รับทราบด้วย
“สมชาย” เดินสายพบอดีตนายกฯ
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รอง เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ภายในพรรคพลังประชาชนอาจมีการเปลี่ยนแปลง 4-5 ตำแหน่ง แทนรัฐมนตรีเดิมที่ประสงค์ จะไม่รับตำแหน่ง อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช นายสหัส บัณฑิตกุล และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เมื่อถามว่า จะมี การทาบทามบุคคลภายนอกเข้ามารับตำแหน่งหรือไม่ นายสุขุมพงศ์ตอบว่า ขณะนี้มีการพิจารณาบุคคลภายนอกมาดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ และ รมว.คลังแล้ว ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหมจะเป็นบุคคลภายในพรรคแน่ อาจ จะเป็นอดีตนายทหารภายในพรรค และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะให้นายสมชายควบตำแหน่งนี้ถ้ายังไม่มีข้อยุติ สำหรับภายในพรรคร่วมรัฐบาลตนเชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโควตารัฐมนตรี และน่าจะได้ข้อสรุปรายชื่อคณะรัฐมนตรีได้ภายใน 1-2 วัน หลังการโปรดเกล้าฯแล้วนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเดินทางไปพบอดีตนายกรัฐมนตรี หลายคน อาทิ นายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายสมัคร สุนทรเวช เพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษารวมทั้งจะประสานงานกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อหาทางออกในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วย
“เติ้ง” ยันไม่มีโควตา รมต.เพิ่ม
ทางด้านความเคลื่อนไหวของพรรคชาติไทย วันเดียวกัน นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงตำแหน่ง ครม.ของพรรคว่า ยืนยันว่าตำแหน่งรัฐ-มนตรีของพรรคชาติไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โควตา กระทรวงเหมือนเดิม จำนวนคนก็เหมือนเดิม จะได้หมดข้อกังขาและไม่เคยเรียกร้องกระทรวงใดมาแทนที่ เมื่อถามว่า เรื่องตัวบุคคลที่นั่งรัฐมนตรียังเหมือนเดิมหรือไม่
นายบรรหารตอบว่า ตอนนี้ยังไม่พิจารณาแต่เข้าใจว่าจะเป็นเหมือนเดิม ไม่ต้องมาถามอีก เมื่อถามว่า จะฝากไปยังพรรคพลังประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายบรรหารตอบว่า รู้สึกเห็นใจ เพราะมีสมาชิกจำนวนมาก มีหลายกลุ่ม เพราะฉะนั้นก็คงใช้วิธีการผสมผสานในแต่ ละกลุ่มให้ลงตัว แนวทางเดิมมีอยู่แล้วใครอยู่ตรงไหนก็ ว่ากันให้ชัดเจน น่าจะปรับเปลี่ยนตัวบุคคลจะเหมาะสมกว่า โดยต้องเลือกบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ
ขอนายกฯใหม่ช่วยด่วนเรื่องน้ำท่วม
เมื่อถามว่า มีอะไรจะฝากถึงนายกฯคนใหม่หรือไม่ นายบรรหารตอบว่า เป็นบุคลิกที่ดี หลังจากการโหวตนายกฯเมื่อวันที่ 17 ก.ย. กล่าวขอบคุณแล้วรีบเดินไปหาผู้นำฝ่ายค้าน ถือเป็นมิติที่ดีและเป็นคนใต้ด้วย จะผสม ผสานดูจากการทำงานในทิศทางที่ดีได้ รวมทั้งไปขอบคุณหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆด้วย รู้สึกมือไม้ท่านอ่อน คิดว่าใช้ได้ ทั้งนี้ งานเร่งด่วนที่อยากให้ทำคือปัญหาน้ำท่วม น้ำจากทางเหนือกำลังจะมา และวางแผนหามาตรการช่วย เหลือหลังจากน้ำลด และการชุมนุมของพันธมิตรถือเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับรัฐบาล ต้องหาทางเจรจาตกลงกัน และหาข้อมูล อะไรทำได้ก็บอกเขาว่าทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ก็บอกว่ายังทำไม่ได้ คนเราถ้าเป็นคนไทยด้วยกันแล้วก็น่าจะพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง


แหล่งที่มา หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ



นางสาวศุภิสรา ประธาน

ID:5131601188

sec.1

1 ความคิดเห็น:

ID: 5131601113 sec.1 กล่าวว่า...

โปรดเกล้าแล้วก็หวังว่า บ้านเมืองคงจะสงบสุขสักที

เพราะที่ผ่านมามีแต่ความวุ่นวายเกิดขึ้น

ก็หวังให้ นายกคนที่ 26 จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดนะครับ